10/13/2009

หลวงตาม้าสอนพุทธภูมิ

หลวงตาม้าสอนพุทธภูมิ

ผม เชื่อว่าสมาชิกเวปวัดถ้ำเมืองนะและลูกหลานหลวงปู่ดู่หลวงตาม้า มีผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิและเป็นพระโพธิสัตว์อยู่จำนวนมาก และบางองค์ก็ทำบารมีมามากพอดูเลยทีเดียว หลวงตาม้าท่านเคยเมตตากล่าวสั่งสอนเรื่องของการปรารถนาพุทธภูมิเอาไว้มาก ผมจึงอยากจะรวบรวมเอามาไว้ ณ ที่แห่งนี้ แม้จะเก็บรวบรวมมาได้ไม่ทั้งหมด แต่ผมก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อญาติธรรมทั้งหลายนะครับ



"พุทธภูมิ"

พุทธ ภูมิ หรือ พระโพธิสัตว์ คือ ผู้ที่ปรารถนาพระโพธิญาณ ปรารถนาจะเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาลเบื้อง หน้า

ผมเคยกราบเรียนถามหลวงตาม้าถึงความหมายของคำว่าพระโพธิญาณ หลวงตาม้าท่านเมตตาตอบมาได้ใจความว่า

"โพธิญาณแปลว่าความรู้ใหญ่ ปรารถนาโพธิญาณก็แปลว่าปรารถนาความรู้ใหญ่ไง"

ผมจึงกราบเรียนถามท่านต่อไปว่า แล้วพุทธภูมินั้นควรทำอย่างไรจึงจะได้เป็น
หลวงตาท่านตอบมาง่ายๆสั้นๆเพียงแค่ว่า
"หากเป็นพุทธภูมิ ทำบุญทุกอย่างจะต้องอธิษฐานเพื่อโพธิญาณ แม้กระทั่งให้ขนมแก่มด"


"เวียนว่ายใน3ภพ"

เป็นที่รู้กันดีว่าพุทธภูมิจะต้องสั่งสมบำเพ็ญบารมีเพื่อให้ได้มาซึ่งพระโพธิญาณ หลวงตาม้าท่านเคยกล่าวไว้ได้ใจความว่า

"ไม่ใช่ปรารถนาแล้วจะเป็นกันได้เลยนะ มันต้องทำนะ"

การ สร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ไม่ได้จบเพียงชาติเดียว หากแต่จะต้องอาศัยช่วงระยะเวลาในการสร้างบารมีอันยาวนาน เวียนเกิด เวียนตายมากมายไม่สามารถนับได้ ทั้งลงนรก ทั้งขึ้นสวรรค์ ทั้งมาเกิดเป็นมนุษย์ หรือทั้งไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน



"มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมเคยถามหลวงตาเกี่ยวกับการที่พุทธภูมิต้องลงนรก"

หลวงตาท่านเมตตาตอบมาว่า

"ผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิ(พระโพธิสัตว์)
หากเข้าถึงไตรสรณคมณ์แล้ว จะสามารถปิดอบายภูมิได้"

ศิษย์: แล้วอย่างไรถึงจะเรียกว่าเข้าถึงไตรสรณคมณ์ครับ

หลวงตา: เรามองพระพุทธรูปหรือพระ แล้วรู้สึกยังไงล่ะ

ศิษย์: ขนลุกครับ ปิติ ชอบครับ

หลวงตา: นั่นแหละ เขาเรียกว่าเข้าถึงไตรสรณคมณ์

วันต่อมาผมนึกสงสัยในเรื่องนี้อีก จึงไปถามหลวงตาอีกครั้ง

ศิษย์: หากผู้ที่เพิ่งเริ่มปรารถนาพุทธภูมิ แต่สามารถเข้าถึงไตรสรณคมณ์ได้ จะปิดอบายภูมิเลยหรือ

หลวงตาม้าท่านก็เมตตาสั่งสอนว่า

"ถ้า เพิ่งปรารถนา มันต้องลงไปชิมดูก่อนนะ ถ้าเรียนจบทั้ง3ภพก็เป็นพระพุทธเจ้าได้เลย การสร้างบารมี เราต้องทำให้ครบ10อย่าง แต่ต้องเลือกเด่นๆสักอย่างหนึ่งในชาตินี้"


"พุทธภูมิจะต้องพยายามเป็นที่ ๑ ในทุกๆเรื่อง แม้เรื่องเรียนหนังสือก็เช่นกัน"

ความ เป็น ๑ ของพุทธภูมิไม่ได้มีไว้แข่งขันชิงดีชิงเด่นกับใคร หากแต่เป็นไปเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่นได้อย่างเต็มที่ ดังเช่นที่หลวงปู่ดู่ท่านเคยกล่าวไว้ว่า


"กำลังของพุทธภูมิ
มีหน้าที่จะทำให้มหาชนมีความสุข
ถ้าคนเรียกร้องหรือบ้านเมืองเกิดยุคเข็ญ

ก็ต้องลงมาช่วย จะคิดเอาแต่สบายได้ยังไง
นั่นไม่ใช่ความคิดของหน่อพุทธภูมิ"

http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?t=3685

No comments: