ที่มาข่าว..หนังสือพิมพ์ผู้จัดการออนไลน์ | 25 สิงหาคม 2552 15:43 น. |
โดย : หนุ่มลูกทุ่ง | ||||
สาธุ...... หลังฉันได้มากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ภายใน "พิพิธภัณฑ์พระบรมธาตุ" เขตบางรัก ซึ่งแม้จะเป็นเพียงห้องเล็กๆ แต่ภายในนั้นเต็มไปด้วยพระบรมธาตุมากมายที่รวบรวมมาจากทั่วทุกสารทิศ อันเกิดจากศรัทธาของผู้ก่อตั้ง ที่พิพิธภัณฑ์พระบรมธาตุนอกจากฉันจะได้อิ่มเอมใจหลังกราบพระบรมสารีริกธาตุ แล้ว ยังได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับพระบรมธาตุกับคุณปราโมช ประสพสุขโชคมณี ประธานชมรมรักษ์พระบรมธาตุแห่งประเทศไทย | ||||
ต่อมาในสมัยพระพุทธเจ้าสมณโคดม พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ทรงเล็งเห็นว่าพระองค์มีเวลาปฏิบัติพุทธกิจเพียง 45 ปี ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับพระพุทธเจ้าองค์ก่อน และยังมีอีกมากที่เกิดมาไม่ทันในสมัยของพระองค์ หากได้อัฐิธาตุของพระองค์ไปอุปัฏฐากบูชา จะได้บุญกุศลเป็นอันมาก จึงทรงอธิษฐานให้พระบรมสารีริกธาตุของพระองค์ แตกย่อยลงเป็น 3 สัณฐาน เว้นแต่ธาตุทั้ง 7 ประการ ที่ไม่ไหม้ไฟ ได้แก่ คือ พระเขี้ยวแก้ว 4, พระรากขวัญ(ไหปลาร้า) 2 และพระอุณหิส(หน้าผาก) 1 | ||||
ส่วนพระรากขวัญ เบื้องซ้าย ประดิษฐาน ณ พรหมโลก, พระรากขวัญเบื้องขวา ประดิษฐาน ณ เมืองอนุราชสิงหฬ และพระอุณหิส ประดิษฐาน ณ เมืองอนุราชสิงหฬ เช่นกัน ซึ่งพระบรมสารีริกธาตุทั้ง 7 ส่วนนี้ถือเป้นพระบรมสารีริกธาตุไม่แตกกระจาย อันหมายถึง ยังคงความเป็นรูปเป็นร่างสมบูรณ์ | ||||
คุณปราโมช เล่าถึงสัณฐานต่างๆของพระบรมสารีริกธาตุว่ามีหลากหลายลักษณะ ทั้งสัณฐานแก้วใสดุจเพชร สัณฐานดั่งเมล็ดข้าวสาร สัณฐานดั่งเมล็ดถั่วแตก สัณฐานดั่งเมล็ดดั่งเมล็ดงา สัณฐานดั่งเมล็ดเมล็ดพันธุ์ผักกาด พระบรมสารีริกธาตุวรรณะพรรณหลากสี วรรณะดั่งทองอุไร วรรณะดั่งงาช้าง วรรณะดั่งแก้วมุกดา และยังมีพระบรมสารีริกธาตุที่ไม่สามารถระบุสัณฐานได้อีกด้วย | ||||
โดยพระปัจเจกพระพุทธเจ้าสามารถบังเกิดขึ้นพร้อมกันได้หลายพระองค์ในยุคนั้นๆ แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติยังเกิดขึ้นในโลกครั้งละหนึ่งพระองค์เท่า นั้น ซึ่งการนมัสการพระปัจเจกพุทธเจ้ามีผลอานิสงส์ด้านลาภสักการะมาก | ||||
อาทิ พระธาตุพระอัญญาโกณฑัญญะ พระเถระผู้บวชเป็นคนแรก สัณฐานงอนช้อยดั่งงาช้าง พรรณสีขาวดั่งดอกมะลิตูม สีเหลือง สีดำ, พระธาตุพระสารีบุตรเถระ พระเถระผู้เป็นอัครสาวกเบื้องขวา ผู้เลิศด้านมีปัญญามาก ลักษณะสัณฐานกลมเป็นปริมณฑล รีเป็นไข่จิ้งจก เป็นดั่งรูปบาตรคว่ำ พรรณสีขาวสังข์ สีพิกุลแห้ง สีหวายตะค้า หรือสีน้ำตาลอ่อน | ||||
พระธาตุพระอานนท์เถระ พระเถระผู้เป็นเลิศด้านพหูสูต สัณฐานดั่งใบบัวเผื่อน พรรณสีขาวดั่งเงิน สีดำอย่างน้ำรัก เหลืองหวายตะค้า, พระธาตุพระปุณณเถระ พระเถระผู้สั่งสมบุญบารมีมามาก สัณฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส พรรณสีขาว สีดอกพิกุลแห้ง เป็นต้น | ||||
เช่น ครูบาศรีวิชัย สิริวิชโย วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน, หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ อ.เมือง จ.ลำปาง, หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร, พระราชพรหมยานเถระ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี, พระอาจารย์ประยุทธ ธัมมยุตโต วัดป่าผาลาด อ.เมือง จ.กาญจนบุรี, พระธาตุหลวงปู่ทวด สามีราโม วัดช้างไห้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี, อัฐิธาตุสมเด็จพระวันรัต วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ เป็นต้น | ||||
ซึ่งนอกจากจะกราบสักการบูชาพระบรมธาตุต่างๆด้วยจิตใจที่แน่วแน่เป็นบุญกุศล แล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์อันเป็น หัวใจของพุทธศาสนาที่ไม่ว่าอยู่ที่ไหนๆเราก็สามารถทำได้สบายๆเลย | ||||
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * พิพิธภัณฑ์พระบรมธาตุ ชมรมรักษ์พระบรมธาตุแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่ที่อาคารศูนย์พลอยเอเชีย ถนนมเหสักข์ ซอย2 เขตบางรัก กรุงเทพฯ โทร.08-6337-4255 |
No comments:
Post a Comment