11/19/2009

รักร้อยครั้ง...ทุกข์ร้อยครั้ง



อ่านพบแนวคิดดี ๆ เลยนำมาเผยแพร่ค่ะ

รักร้อยทุกข์ร้อย


สมัย หนึ่งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ บุพพาราม กรุงสาวัตถี ครั้งนั้นหลานคนหนึ่งของนางวิลาขามหาอุบาสิกาได้ตายลง นางวิชาขามีความเศร้าโศกเสียใจเพราะความอาลัยรักหลานเป็นอันมาก วันหนึ่งเวลาเที่ยงขณะที่นางยังไม่คลายความโศก ได้เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า หลังจากกราบและนั่งเรียบร้อยแล้ว พระพุทธเจ้าได้ตรัสทักขึ้นก่อนว่า

"วิสาขา เธอไปไหนมาจึงมีผมเปียกและผ้าก็เปียก?"

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หลานอันเป็นที่รักที่พอใจของหม่อนฉันได้ทำกาละลง หม่อนฉันจึงมีผมเปียก และผ้าก็เปียกด้วยเหตุนี้แหละเจ้าค่ะ"

"วิสาขา เธออยากมีลูกมีหลานเท่ากับจำนวนพลเมืองของกรุงสาวัตถีอย่างนั้นหรือ"

"หม่อนฉันต้องการอย่างนั้นเจ้าคะ"

"โดยส่วนเฉลี่ย คนในกรุงสาวัตถีนี้ตายวันละเท่าไหร่ วิสาขา ?"

"เฉลี่ยแล้วคนในเมืองนี้ตายวันละ 1 คนก็มี 2-3 คนก็มี จนถึง 10 คนก็มี ที่จะไม่มีวันคนตายเลยนั้นไม่มีเลยเจ้าค่ะ?"

"วิสาขา เธอจะทำอย่างไร ถ้าเธอมีลูกหลานเท่ากับจำนวนคนในกรุงสาวัตถีนี้ แล้วต้องมีลูกหลานของเธอตายลงทุกวัน เธอมิต้องร้องไห้ผมเปียกผ้าเปียกทุกวันไม่มีวันส่างอยู่ชั่วนาตาปีเช่นนั้น หรือ ?"

"หม่อม ฉันเข็ดแล้ว ลูกหลานเท่าที่มีอยู่ก็พอแล้วเจ้าค่ะ หม่อมฉันไม่ต้องการลูกหลานมากมายเท่าจำนวนพลเมืองของกรุงสาวัตถีอีกต่อไป แล้วเจ้าค่ะ"

"วิสาขา ด้วยประการฉะนี้แล ผู้ใดมีสิ่งที่รัก 100 ผู้นั้นก็มีทุกข์ 100 ผู้ใดมีสิ่งที่รัก 50 ก็มีทุกข์ 50 ผู้ใดมีสิ่งที่รัก 10 ผู้นั้นก็มีทุกข์ 10 ผู้ใดมีรัก 5 ผู้นั้นก็มีทุกข์ 5 ผู้ใดที่มีรัก 1 ผู้นั้นย่อมมีทุกข์ 1 ผู้ใดไม่มีสิ่งที่รักเลยผู้นั้นก็ย่อมไม่มีความทุกข์เลย เรากล่าวว่าผู้ใดไม่มีความรัก ผู้นั้นก็ย่อมไม่มีความโศก ปราศจากธุลีไม่มีอุปายาส"


เห็นเข้ากับยุคสมัยนี่ถ้ามักจะัมีความทุกข์กับความรักมาก
ที่ท่านตรัสว่าไม่มีความรัก ย่อมไม่โศก นั้นเป็นความรักแบบยึดติดนะครับ แต่อย่างไร สังคมเราต้องมีพรหมวิหาร 4 เป็นตัวนำ จึงจะสงบมากครับ เมตตา ตัวหลักเลย

No comments: